Tones: M = mid, HR = high-rising, H = high, HF = high-falling, LF = low-falling
Isaan | Pronunciation | Tones | Thai | English/Notes | #occ |
---|---|---|---|---|---|
สามสิบ | sa:m-sip | M-M | สามสิบ | thirty | 11/6 |
Link to overview page
Link to dictionary
Basic vocabulary — page 19 — Series A, pictures 11-14: calendar, day, week, month, year
12 ปะติทินบอกมื้อเจ็ดมื้อ
13 ปะติทินบอกเดียน เดียนหนึ่ง มีสามสิบเอ็ดมื้อ
14 ปะติทินบอกปี มีสิบสองเดียน
Basic vocabulary — page 14 — Series B, pictures 11-14: clock, hour, minute
นี้คืออี่หยัง นี้คือนาลิกา นาลิกาเป็นซงวงกม เป็นลูบวงกม
นาลิกาสีขาว ขาวจุ่นพู่นอยู่ ขอบนาลิกากะเป็นสีดำ เป็นวงกมคือกัน
นาลิกามีไว้เฮ็ดหญัง นาลิกามีไว้ถ้าเบิ่งเวลา ไว้ถ้าบอกเวลา
ขั้นมีนาลิกา เฮากะสิฮู้ว่า ตอนนี้จักโมงแล้ว ตอนนี้เวลาเท่าใดแล้ว เฮากะสิฮู้ เพาะว่าเฮาเบิ่งนาลิกา แล้วเฮากะสิลู้เวลา
ตอนนี้นาลิกาจักโมงแล้ว ตอนนี้นาลิกาห้าโมงตง หลือห้านาลิกาพอดี
ตอนนี้เข็มนาลิกาอ่วยไปทางใด ตอนนี้เข็มนาลิกาอ่วยไปใส่เลขห้า เข็มใหญ่อ่วยไปทางเลขห้า เข็มน้อยอ่วยไปหม้องเลขสิบสอง
สะหลุบแล้วว่า เฮากะสิฮู้เวลา เฮากะสิเบิ่งเวลาออก เพาะว่าเฮาเบิ่งจากเข็มนาลิกา มันอยู่หม้องใด มันอยู่เลขใด เฮากะสิเบิ่งเวลาถืก
12
นี้คืออี่หยัง นาลิกาคือกันแม่นบ่ แม่น อันนี้กะนาลิกาคือกัน อันนี้กะเป็นนาลิกา
ตอนนี้เวลาจักโมงแล้ว ตอนนี้เวลาห้าโมงสิบห้านาที เพาะว่าเข็มนาลิกา เข็มใหญ่มันอ่วยไปใส่เลขห้า เข็มน้อยนาลิกามันอ่วยไปใส่เลขสาม สะหลุบแล้วเวลากะห้าโมงสิบห้านาที
13
ตอนนี้เวลาจักโมงแล้ว ตอนนี้เวลาห้าโมงเคิ่ง หลือเวลาห้าโมงสามสิบนาทีนั้นหละ
14
ตอนนี้เวลาจักโมงแล้ว ตอนนี้เวลาห้าโมงสี่สิบห้านาที
เข็มนาลิกาเข็มใหญ่มันยังอยู่เลขห้าอยู่ แล้วเข็มน้อยมันกะอยู่ที่เลขเก้า สะหลุบแล้วเวลากะห้าโมงสี่สิบห้านาที
แล้วตอนนี้เวลามันฮอดหกโมงไป่ บ่ มันทันได้ฮอดหกโมงอยู่ ตอนนี้มันห้าโมงกว่าๆ หนึ่ง บ่ทันได้ฮอดหกโมงเลย
ขั้นเข็มนาลิกาเข็มใหญ่อยู่เลขหก แล้วเข็มน้อยเลยเลขสิบสองไป มันกะสิฮอดหกโมง ตอนนี้เหลียเวลาอีกสิบห้านาที มันจั่งสิฮอดหกโมง หลือหกนาลิกานั้นหละ
Basic vocabulary — Page 32 — Series B, pictures 16-17: car, bus, to drive
นี้คืออี่หยัง เขากำลังเฮ็ดหญัง อันนี้กะคือลด กะมีคนคนหนึ่ง เป็นพุซายเนาะ กำลังขับลด
แล้วเขาขับไปใส จักคือกัน อันนี้กะบ่ฮู้ว่าเขาขับไปใส เขาอาดสิไปไกเติบ หลือว่าใก้ๆ กะได้ เขากะเลยขับลด เพาะว่าเขาญ่าง เขาอาดสิแบบว่าญ่างไปบ่ได้ เขากะเลยต้องขับลดไปเนาะ
แล้วขับลดเนี้ย ต้องขับจักคน ขับสองคนได้บ่คันเดียวเนี้ย บ่ ลดพิกอั่บ หลือว่าลดเก็ง ลดอี่หยัง กะส้างมันมีหม้องขับหม้องเดียว สามาดขับได้คนเดียวเนาะ บ่แม่นว่าสิขับได้สองคน มันมีพวงมาลัยหลือว่าหม้องขับหม้องเดียว เขากะเลยต้องขับคนเดียว ขับสองคนบ่ได้เนาะ
17
พุซายคนนี้เขากำลังเฮ็ดหญัง กะพุซายคนนี้เขากำลังขับลด แต่ว่าเป็นลดบั่ด
อาดสิเป็นลดโดยสานหลือว่าลดบั่ด ขนส่งพุโดยสานกะได้เนาะ
แล้วเขาสิขับไปใส จักคือกัน อันนี้กะบ่ฮู้ว่าเขาสิขับไปใส เขาอาดสิขับไปสะถานีขนส่งหลือว่าไปหม้องจอด ลับส่งพุโดยสานกะได้ อันนี้เฮากะบ่ฮู้เนาะ
แล้วลดบั่ดเนี้ย มันขึ้นได้หลายคนบ่ กะหลายคนเติบเนาะ หม้องนั่ง เออ หม้องนั่งในลดหนิกะปะมานยี้สิบสามสิบคนสามาดนั่งได้เนาะ หลือว่าหลายกว่านั้น บางคันกะอาดสิน้อยกว่านั้น ปะมานสิบกว่าคน หลือว่าสามสิบสี่สิบ ห้าสิบคนกะได้ แล้วแต่ลดบั่ด แล้วแต่บางคัน
ลดบั่ดหนิกะสิมีเทิงซั้นเดียว แล้วกะสองซั้น บางคันกะสิมีแค่ซั้นเดียว บางคันกะสิมีสองซั้น มีซั้นหนึ่งกับซั้นสอง หลือว่าซั้นข้างล่างกับซั้นข้างเทิงเนาะ กะมีสองซั้น ขั้นมีสองซั้นกะขี่ได้หลายคน กะนั่งได้หลายคนเนาะ
Basic vocabulary — page 19 — Series B, pictures 11-14: calendar, day, week, month, year
นี้คืออี่หยัง นี้คือปะติทิน อันนี้เป็นปะติทิน บอกมื้อ บอกวัน บอกเวลา หลือบอกเดียนบอกปีนั้นหละ
แต่ว่าในปะติทินนี้มีบอกสามมื้อหนึ่ง มีบอกวันที่สิบ แล้วกะบอกวันที่สิบเอ็ด แล้วกะบอกวันที่สิบสอง มีบอกสามมื้อ เฮาเห็นสามมื้อนั้นหละ
12
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทินคือกัน อันนี้กะเป็นปะติทิน
เป็นปะติทินบอกมื้อ ตอนนี้เฮาเห็นปะติทินบอกเจ็ดมื้อหนึ่ง บอกบ่หลาย เห็นแค่เจ็ดมื้อ
มีวันที่สิบเอ็ด สิบสอง สิบสาม แล้วกะสิบสี่ สิบห้า สิบหก แล้วกะสิบเจ็ด
มีเจ็ดมื้อหนึ่ง เอิ้นง่ายๆ ว่ามีอาทิดหนึ่ง อาทิดหนึ่งมีเจ็ดมื้อ
ในอาทิดหนึ่งกะสิมีเจ็ดมื้อ กะสิมีวันจัน วันอังคาน วันพุด วันพะลึหัด วันสุก วันเสา แล้วกะวันอาทิด
กะมีเจ็ดมื้อ ลวมกันกะเป็นอาทิดหนึ่ง หลือเจ็ดมื้อนั้นหละ
13
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทินคือกัน อันนี้ปะติทินบอกเดียน อันนี้กะเป็นปะติทิน ปะติทินบอกเดียน
อันนี้มีเดียนหนึ่ง แล้วแต่เดียน อันนี้บ่ฮู้ว่าเป็นเดียนอี่หยัง แต่ว่าในเดียนนี้มีสามสิบเอ็ดมื้อ
บางเดียนกะมีสามสิบมื้อ บางเดียนกะมียี้บเก้ามื้อ แล้วแต่ เดียนกุมพาพันกะสิมียี้บเก้ามื้อ
ขั้นเดียนใดที่ลงท้ายด้วย คม กะสิมีสามสิบเอ็ดมื้อ ขั้นเดียนใดที่ลงท้ายด้วย ย๊น กะสิมีสามสิบมื้อ
แต่ว่าในเดียนนี้ที่เขาบอก[อยู่]ในลูบพาบนี้ กะสิมีสามสิบเอ็ดมื้อ เดียนนี้กะอาดสิลงท้ายด้วย คม
14
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทิน เป็นปะติทินคือเก่านั้นหละ แต่ว่าปะติทินอันนี้เป็นปะติทินบอกปี บอกปี
ปีหนึ่งกะสิมีสิบสองเดียน อันนี้เป็นบอกปี ปีสองพันห้าล้อยห้าสิบเก้า
หลือบอกคอสอ ขั้นเป็นคอสอของปะเทดฝะลั่งกะสิสองพันสิบหก
ในสิบสองเดียน หลือในปีหนึ่ง กะสิมีสิบสองเดียน แต่ละเดียนกะสิมี หนึ่ง เดียนมกกะลาคม สอง กุมพาพัน สาม เดียนมีนาคม สี่ เดียนเมสาย๊น ห้า เดียนพึสะพาคม หก เดียนมิถุนาย๊น เจ็ด เดียนกะละกะดาคม แปด เดียนสิงหาคม เก้า เดียนกันญาย๊น สิบ เดียนตุลาคม สิบเอ็ด เดียนพึสะจิกาย๊น สิบสอง เดียนทันวาคม
อันนี้กะสิเป็นสิบสองเดียนในหนึ่งปี แต่ละปีกะสิมีสิบสองเดียนนี้หละ
แล้วในปีหนึ่งสิมีจักมื้อ ในปีหนึ่งกะสิมีสามล้อยหกสิบหกมื้อ หลือสามล้อยหกสิบห้ามื้อ
ขั้นเดียนกุมพา หลือขั้นปีใดที่เดียนกุมพาพันมียี้บแปดมื้อ ปีนั้นกะสิมีสามล้อยหกสิบห้ามื้อ
แต่ว่าขั้นปีใดที่เดียนกุมพาพันมียี้สิบเก้ามื้อ ปีนั้นกะสิมีสามล้อยหกสิบหกมื้อ
Basic vocabulary — Page 32 — Series B, pictures 01-03: market, trader, to sell, fruit, pork
นี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นตะหลาด เป็นตะหลาดนัด เป็นตะหลาดน้อยๆ อาดสิเป็นตะหลาดบ่ใหญ่หลาย
แล้วในตะหลาดมีอี่หยังแน่ ในตะหลาดกะมีหลายอย่าง ตะหลาดมันกะสิเป็นหม้องลวมๆ กัน หม้อง หม้องขายของ หลือว่าหม้องซื้อของ พุใดอยากมีลายได้ หลือว่าอยาก มีอี่หยังที่สิขาย กะไปขายอยู่ในตะหลาดนั้น
แต่ว่าขั้นมีคนบางคนที่อยากได้ ต้องกานอี่หยัง หลือว่าอยากได้อี่หยัง อยากได้ อยากซื้ออันนั้น ซื้อแนวกิน หลือว่าซื้อของต่างๆ กะสิไปตะหลาดนี้เพื่อที่ว่าสิไปซื้อของ ซื้อของที่เจ้าของต้องกาน หลือว่าซื้อของที่เจ้าของอยากได้
ขั้นคนอยากมีลายได้ หลือว่าอยากมีเงินกะไปขายของอยู่ตะหลาดนี้ เพื่อที่ว่าสิเอาของที่เจ้าของมีนั้นไปขายให้กับคนอื่นที่เขาบ่มีเนาะ
แล้วสีแดงๆ เขียวๆ หลือว่าเหลียงๆ นั้นเป็นอี่หยัง อันนั้นกะสิเป็น อยู่ข้างล่างนั้นกะสิเป็นฮ้าน ฮ้านวางของที่เขาสิขาย แต่ว่าขั้นเป็นเทิงๆ นั้นกะสิเป็นหลังคาเนาะ มุงไว้เพื่อที่ว่า ไว้ถ้ากันแดด หลือว่ากันฝน ญามฝนตกกะบ่ให้ของที่เฮาขายถืกน้ำ หลือว่าถืกแดดเนาะ
2
พุหญิงคนนี้ เขากำลังเฮ็ดหญัง กะมีพุหญิงคนหนึ่งเนาะ เป็นพุหญิงคนนี้หละ เขากำลังขายหมากไม้อยู่ หมากไม้หลือว่าขายผนละไม้
แล้วเขาขายผนละไม้ [มันมี]อี่หยังแน่ กะมีหลายอย่างเนาะ กะมีก้วยพ้อม ที่เฮาแนมเห็นกะมีก้วยพ้อม มีแอ็ปเปิ้นพ้อม แล้วกะมีลำไย แล้วกะมีอันอื่นๆ อีกหลายอย่างเนาะ แล้วเขากำลังขายอยู่
เขาขายอยู่กับพุใด เขาขายอยู่พุเดียวของเขานั้นหละ
แล้วเขาสิขายผนละไม้หลือว่าหมากไม้นี้ให้พุใด เขากะสิขายคนที่ต้องกานสิกิน หลือว่าอยากกินผนละไม้ หลือว่าอยากกินหมากไม้นี้ กะสิขายให้กับคนนั้น พุใดบ่อยากกิน หลือว่าบ่อยากซื้อ เขากะบ่ได้ขายให้เนาะ
3
พุซายคนนี้เขากำลังเฮ็ดหญัง พุซายคนนี้เขากำลังขายหมูเนาะ เอิ้นง่ายๆ ว่าเป็นพ่อค้าขายหมูเนาะ ขั้นเป็นพุหญิงกะเอิ้นว่าแม่ค้าขายหมู
หมูนี้มันเป็นอาหานหลือว่าเป็นแนวกินหลือว่าเป็นอี่หยัง หมูนี้มันกะเป็นแนวกินหนิหละ เป็น เป็นเนี้ยหมูเนาะ กะขาย อาดสิมีเนี้ยหมู ตับหมู หัวใจหมู หูหมู กะมีหลายอย่างที่เขากำลังขายอยู่ หลือว่าหัวหมู ขาหมู กะมีเบิดซู่อย่างเนาะ เขากะขายให้กับคนที่อยากได้ หลือว่า เอา อยากได้หมูเนาะ ไปเฮ็ดแนวกิน หลือว่าไปเฮ็ดเป็นกับเข้า
แล้วหมูหนิมันแพงบ่ เนี้ยหมูหนิกะบ่แพงปานใด โลหนึ่งกะล้อยกว่าบาท ปะมานล้อยยี้สิบ ล้อยสามสิบ ล้อยสี่สิบ แล้วแต่ลาคา แล้วกะสิมีอย่างอื่นที่ลาคาแตกต่างกันไปเนาะ แล้วแต่หม้อง แล้วแต่ตะหลาดที่เขาสิขายเนาะ
Stories — Childhood memory: jumping off a tree branch into a pile of straw, branch breaks
มีมื้อหนึ่งเนาะ แต่ๆ โดนนั้นหละ แต่โดนเติบ แต่หลายปีแล้วหละ ตั้งแต่พุข้าเป็นเด็กน้อยพุ้นหละ ตั้งแต่เป็นเด็กน้อย อายุพุ้นหละมาลาวๆ หอั้น สิบปี สิบเอ็ดปีพุ้นหละเนาะ จักปีเกาะ สิบปี สิบเอ็ดปีพุ้นหละ เป็นสิบปีคืนหลังพุ้นหละ ตั้งแต่เป็นเด็กน้อย เป็นเด็กน้อยเด็กเอ่ยพุ้นหละ พากันเหล้นกันเนาะ ตามปะสาเด็กน้อยหละ โอ๊ย เด็กน้อยอยู่บ้านกะหลายกะด้อกะเดี้ย หมู่กันหนิหละ ตั้งแต่เป็นเด็กน้อยเนาะ กะหมู่หลายเนาะ สะหมัยแต่กี้เด็กน้อยในหมู่บ้านหนิ หลายเติบเด่ะเด็กน้อยหนิ เป็นซาวพุ้นหละ ซาวกะคือยี้สิบพุ้นหละ เป็นยี้สิบสามสิบคนพุ้นหละ เด็กน้อยในหมู่บ้านนั้น หลายคัก
พากันเหล้นมื้อนั้น พากันซวนกันไปเหล้น ไปเหล้นอี่หยังบุ ไปเหล้นอี่หยัง บ่เหล้น พากันได้ปีนกกไม้ ไปปีนหอั้น ไปเหล้นหญ้มหอั้น กกไม้ ต้นอี่หยังเกาะ เขาเอิ้นว่าหอั้น ต้นผักกะเสดติ ต้นผักกะเสดเนาะ ไปพากันไปปีนเหล้น โอ๊ยตาอยากหัวหลาย คิดพ้อแล้วกะเดย คิดพอแล้วกะอยากหัวเนาะ ไปพากันไปปีนเหล้น สี่ห้าคนพุ้นแหล้ว มื้อนั้นหอั้น ปีนขึ้นไปต้นนั้น ผักกะเสดกะต้นน้อยๆ เนาะ ต้น[...] ลำบ่ใหญ่ปานใด
พากันขึ้นสี่ห้าคน ขึ้นแล้วกะหญ้ม [...] เหล้นพุ้นแหล้ว ขึ้นเหล้นเพาะว่าหอั้น อยู่ข้างๆ กกหอั้น ผัก ผักอี่เสดหนะ ต้นผักอี่เสด แล้วมันสิมีหอั้น กองเฟียงเนาะ กองเฟียงกองบักใหญ่หนึ่ง เด็กน้อยกะแล่นเหล้น บางคนกะเหล้นอยู่อ้อมกองเฟียงนั้นหละ แล่นเหล้น แล่นซ้าย แล่นขวา โดดซ้าย โดดขวา โดดอยู่เทิงกองเฟียงนั้นหละ ม่วนหลาย ม่วนคัก
ซุมขี้มึนบัดหนิ ซุมขี้มึนกะไปปีนหอั้นกกผักอี่เสด จักปีนจั่งใด หญ้มซ้าย หญ้มขวา บางคนกะโดดใส่กองเฟียง บางคนกะโดดลงข้างล่าง โดดซ้าย โดดขวา ปีนขึ้นเทิงโดด ปีนขึ้นเทิงโดดเนาะ โดนเติบ บัดนี้พอฮอดหอั้น โดนเติบ บัดนี้หอั้น ต้นไม้มันกะสิหักตั๊วะบัดหนิ ต้นไม้ ผักอี่เสด ต้นที่ ที่มันขึ้นนั้นหละ สี่ห้าคนนั้นหละ มึนคักมึนแน่แต่กี้หนะ หักลงมาบัดหนิ ยืนอยู่เทิงนั้นสี่ห้าคนพุ้นหนะ ง่าผักอี่เสดหักลงมา ตกเอ้ม! ลงมา ตก เจ็บวะสั้น แล้วพากันให้ก้ากๆ ไปหาพ่อหาแม่บัดหนิ
กองเฟียงกะบ่ได้เหล้นซ้ำ ต้นไม้นั้นกะหักซ้ำ บ่มีพุใดได้ขึ้นอีกบัดหนิ พากันให้แข่งกัน ไปหาพ่อแม่บัดหนิ ถืกตีซ้ำ พ่อแม่กะตีซ้ำว่ามึนหลาย ไปเฮ็ดหญังบ่เฮ็ด ไปปีนกกไม้ ตกลงมาให้ก้ากๆ ได้เป็นแผเป็นเอ่ย เจ็บโตซ้ำ เทิงถืกพ่อแม่ตีอีก บัดนี้กะบ่ได้ไปขึ้นอีกดอก บ่มีกกไม้ กกไม้กะได้หักแล้ว บ่ได้ขึ้นอีกดอกบัดหนิ
มื้อหลังมื้อใหม่กะสิหาเหล้นแนวใหม่พุ้นหละ บ่มีหม้องขึ้นแล้ว กก [...] ไม้ กกผักอี่เสดอยู่ข้างกองเฟียง หม้องที่สิโดดลงกองเฟียงหนะกะบ่มีแล้ว กะสิได้หาเหล้นแนวใหม่ต่อไปนี้เนาะ